ระบบบังคับเลี้ยว (Steering Systems)


เป็นระบบที่ควบคุมการเลี้ยวของรถยนต์ผ่านการบังคับจากคนขับในห้องโดยสารเพื่อให้ล้อหน้าทั้ง2ล้อเกิดการหันตามทิศทางที่ต้องการ โดยจะช่วยผ่อนแรงจากผู้บังคับผ่านการใช้ชุดเฟืองทดแรงทีี่อยู่ระหว่างแกนพวงมาลัยกับแขนส่งกำลังที่เรียกว่า “กระปุกพวงมาลัย” เมื่อออกแรงหมุนที่พวงมาลัยก็จะเกิดการส่งผ่านแรงมายังกระปุกพวงมาลัยและส่งไปที่แกนยึดกับล้อก็จะทำให้ล้อหมุนตามทิศทางที่ต้องการ
ระบบบังคับเลี้ยวแบ่งเป็น 2 แบบ
1.ระบบพวงมาลัยแบบ Steering Linkage เป็นระบบเลี้ยวที่ใช้การส่งกำลังผ่านคันชักคันส่งผ่านจุดเชื่อมต่อ และจะใช้แขนพิทแมน(ขาไก่) ซึ่งได้รับแรงบิด เปลี่ยนทิศทางมาจากกระปุกเกียร์ มาบังคับแขนพิทแมน


2.ระบบพวงมาลัยRack and Pinion จะใช้วิธี ผ่านกำลังการหมุนพวงมาลัยผ่านเฟืองขับและเฟืองสะพาน จะช่วยทดแรงมากกว่าในแบบที่หนึ่ง


ปัจจุบันเราจะเห็นรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ใช้ระบบ Rack and Pinion เป็นทีี่มาของระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ ที่ไม่ต้องออกแรงในการเลี้ยวมาก ซึ่งระบบแบบนี้ปัจจุบันใช้การทำงานต่างกัน ยกตัวอย่าง
ระบบบังคับเลีี้ยวแบบไฮโดริก


จะใช้น้ำมันเป็นตัวช่วยในการผ่อนแรง โดยใช้ชุดปั่มสร้างแรงดันให้น้ำมันไปขับเคลื่อนชุดเลี้ยว โดยใช้แรงจากรถยนต์ ข้อเสียคือ ระบบนี้ต้องดูแลรักษาไม่ให้มีการรั่วซึมหรือน้ำมันแห้งโดยหลักการทำงานคร่าวๆ ของการทำงานแบบไฮโดรริก ก็คือ เมื่อเฟืองเริ่มทำงาน เพลาจะถูกบังคับด้วยของเหลวที่ออกจากวาล์ว โดยของเหลวจะเข้าที่ด้านใดด้านหนึ่งของลูกสูบที่ติดกับ steering gear เมื่อความดันเพิ่มขึ้นภายในกระบอกสูบจะทำให้ Pitman shalft เคลื่อนที่
ส่วนประกอบหลักของระบบบังคับเลี้ยว
1.แกนพวงมาลัย
แกนพวงมาลัยประกอบด้วย เพลาหลักของพวงมาลัยซึ่งถ่าย ทอดการหมุนพวงมาลัยไปยังกระปุกเกียร์พวงมาลัย ปลอกแกนพวงมาลัยซึ่งเป็นที่อยู่ของเพลาหลักพวงมาลัยด้านบนของเพลาหลักพวง มาลัยทำเป็นเรียว และเป็นซี่โดยที่ตัวพวงมาลัยติดอยู่ที่จุดนี้ด้วยน็อต แกนพวงมาลัยจะมีส่วนประกอบของกลไกดูดซับเพลางานอยู่ด้วย ซึ่งจะดูดซับแรงที่กระทำอันเนื่องมาจากการชนกันต่อผู้ขับรถ แกนพวงมาลัยจะติดอยู่ที่ตัวถังพร้อมด้วยที่ยึดแกนแบบแตก แยกออก ซึ่งแกนพวงมาลัยสามารถแยกตัวออกเมื่อมีการชนเกิดขึ้น
2.กระปุกเกียร์พวงมาลัย
แบบลูกปืนหมุนวนและแบบเฟืองขับ-เฟืองสะพานเป็นที่นิยมใช้กันเป็นส่วนมาก โดยทั่วไปในรถยนต์ปัจจุบัน เฟืองที่อยู่ในชุดกระปุกเกียร์พวงมาลัยไม่ใช่ทำหน้าที่หมุนล้อหน้าเพียงอย่าง เดียว แต่ในเวลาเดียวกันมันยังกระทำการผ่อนแรงที่ใช้ในการหมุนพวงมาลัย ด้วยเฟืองทดซึ่งตามปกติจะอยู่ระหว่าง 18 และ 20 :1อัตราทดที่มากจะช่วยลดความพยายามบังคับเลี้ยว แต่มันจำเป็นที่ต้องหมุนพวงมาลัยมากรอบ เมื่อวิ่งไปรอบๆ