***ช่วยกันแชร์หน่อยจ้า****
https://www.facebook.com/fitnessandtoy/videos/2120753828227319/

1. ตรวจเช็คโครงสร้าง เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก รถบรรทุกมือสองเรียกได้ว่าผ่านอะไรมาค่อนข้างมาก จึงต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดมากกว่าการซื้อรถมือสองทั่วไป สิ่งที่คุณจะต้องตรวจสอบนั่นคือโครงสร้างรอบคัน โดยให้สังเกตจากรอยตะเข็บหรือรอยต่อตามจุดต่างๆ ข้อยึดติดกันชนที่เชื่อมต่อกับแชสซีส์ ถือว่าตรงจุดนี้มีความสำคัญเพราะเป็นตัวโครงสร้างหลักของรถ พร้อมทั้งดูด้วยว่าคดหรือเบี้ยวหรือไม่ รวมถึงฝากระโปรง ประตูปิดสนิทหรือไม่ และส่วนแก้มหลับที่ต่อกับเสาหลังคาหรือตัวเฟรมเพราะชิ้นส่วนนี้มีความสำคัญจะไม่สามารถซ่อมได้หรือถ้าซ่อมออกมาจะไม่เหมือนเดิม เพราะความแข็งแรงคงทนจะลดลงทันที จึงไม่ควรเสี่ยงที่จะซื้อ

2. ตรวจเช็คสภาพตัวถังภายนอก โดยเฉพาะเรื่องของสี ให้ดูรอบๆ ว่ามีสีที่บวมหรือไม่ สำหรับใครที่ซื้อรถมือสองมักจะเดินเอามือเคาะรอบๆ รถเพื่อฟังเสียงว่าเป็นรถที่ผ่านการทำสีมาหรือไม่ หรือดูว่าตรงไหนมีสนิมขึ้นหรือไม่

3. ตรวจเช็คเครื่องยนต์ เพื่อเป็นการตรวจเช็คว่าเป็นเครื่องที่หลวมหรือแน่น โดยให้เริ่มต้นจากการสตาร์ทและดูรอบเดินของเครื่อง โดยให้เลือกฟังว่ามีเสียงอะไรที่มีความผิดปกติหรือว่ารอบการเดินเครื่องนั้นได้ครบ 2000 ต่อนาทีหรือไม่ หรือเวลาที่เดินเครื่องและมีเสียงที่ดังผิดปกติหรือไม่  จากนั้นก็ให้เข้ามาดูที่ควันของเครื่องยนต์ว่ามีกลิ่นเปรี้ยวหรือฉุนก็จะเป็นการเผาไหม้ที่ไม่หมด รวมถึงการปล่อยควันขาวๆ ออกมามาก แสดงว่าเครื่องหลวมเช่นเดียวกับควันดำ ที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่หมดนั่นเอง

4. ตรวจเช็คระบบแอร์ ว่าพัดลมดังหรือคอมแอร์เสียงดังตลอดหรือไม่ จะเงียบเมื่อตอนปิดแอร์ ซึ่งเป็นอาการของคอมแอร์มีปัญหา

5. ตรวจเช็คระบบเกียร์ ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ออโต้หรือเกียร์ธรรมดา จะต้องได้รอบเครื่องที่กำหนด 2000 รอบต่อนาที หากเกินกว่านั้นก็จะแสดงถึงว่าระบบคลัตช์เริ่มมีปัญหา

6. ตรวจเช็คสภาพห้องโดยสารของรถบรรทุก ซึ่งเป็นการตรวจสอบความเรียบร้อยของภายใน เริ่มต้นที่ระบบไฟฟ้า ระบบสัญญาณต่างๆ ยังคงใช้งานได้ตามปกติ เบาะนั่งปรับระดับได้หรือไม่ สวิตซ์ต่างๆ เช่นระบบการสั่งงานของกระจก อุปกรณ์อำนวยความสะดวกยังอยู่ครบ หรือการดัดแปลงภายในเป็นรุ่นอื่นเพื่ออัพราคาแล้วมาหลอกขาย ตรงจุดนี้ผู้ซื้อจำเป็นต้องทราบรายะเอียดเฉพาะรุ่นจะช่วยคุณได้อย่างมาก