เสียหายยับ! รถพ่วงจอดนอนรอปะยาง คนร้ายดอดกรีดผ้าใบ ขโมยเบียร์ 120 ลังหนี


ที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 89-5845 นครปฐม หมายเลขทะเบียนตัวลูก 88-9326 นครปฐม จอดชิดซ้ายริมถนนด้านคู่ขนาน โดยบริเวณด้านซ้ายผ้าใบถูกคนร้ายใช้มีดกรีดผ้าใบคลุมลังเบียร์ ขโมยลังเบียร์ที่รถพ่วงบรรทุกมาจำนวน 120 ลัง และยังมีอีก 3 ลังที่ตกลงพื้นถนนแต่ได้รับความเสียหายคนร้ายไม่ได้นำไป จากการสอบถาม นายณรงค์ศักดิ์ บุญแสง อายุ 33 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี คนขับรถพ่วง เล่าว่า ตนได้ขับรถพ่วงบรรทุกเบียร์มาทั้งหมด 2,400 ลัง มาจาก อ.บางเลน จ. นครปฐม เมื่อช่วงหัวค่ำเพื่อมุ่งหน้าไปส่งให้ลูกค้าที่ จ.ระยอง พอถึงจุดเกิดเหตุช่วงเวลา 02.00 น. ยางรถยนต์ด้านหลังขวาสุดได้รั่วตนจึงจอดหน้าร้านปะยางเพื่อจะรอปะยางร้านเปิดในช่วงเช้า พอเวลา 05.00 น. ตนตื่นขึ้นมา ก็แทบตกใจเมื่อเห็นลังเบียร์ล่วงตกอยู่บนพื้นจำนวน 3 ลัง และก็มองเห็นผ้าใบถูกกรีดออกจึงปีนขึ้นไปสำรวจพบว่าลังเบียร์ ถูกคนร้ายขโมยไป 120 ลัง มูลค่าเกือบ 100,000 บาท ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งให้บริษัททราบ จากนั้นจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
รถถูกขโมย ต้องทำอย่างไรบ้าง?
1.ตั้งสติให้ดี
เข้าใจได้ว่าหากใครประสบกับเหตุไม่คาดฝันแบบนี้ ก็คงอาจจะสติแตกหรือควบคุมอารมณ์ให้มั่นคงได้ยาก แต่เชื่อเถอะว่าหากเกิดเหตุนี้ขึ้นมาสิ่งแรกที่เราควรทำคือควบคุมสติเราให้ดีและพยายามควบคุมอารมณ์ให้มั่นคงด้วย เพื่อที่เราจะได้ค่อยๆ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นไปเรื่อยๆ จนผ่านพ้นปัญหาไปด้วยดีนั่นเอง
2.ติดต่อบริษัทประกันหรือไฟแนนซ์ทันที
หากเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่างกรณี รถถูกขโมย ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือ รถมอเตอร์ไซด์ ก็ตาม สิ่งแรกที่เราควรทำก็คือ โทรแจ้งบริษัทประกันภัยที่เราทำประกันไว้ , โทรแจ้งไฟแนนซ์ที่เราผ่อนรถอยู่ เพื่อแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นให้ทราบและดำเนินการในลำดับต่อไป
3.แจ้งความที่โรงพัก
หลังจากโทรแจ้งบริษัทประกันหรือไฟแนนซ์แล้ว สิ่งที่เราควรทำในลำดับต่อไปก็คือ ไปแจ้งความที่โรงพัก เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ให้ตำรวจช่วยสืบเสาะหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายและตามหารถของเราที่หายไป โดยเราต้องค่อยๆ เล่าลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เพราะข้อมูลส่วนนี้ทางคุณตำรวจจะใช้ในการสืบหาคนร้ายนั่นเอง รวมถึงเพื่อเอาหลักฐานมาประกอบในการติดต่อขอดำเนินการเรื่องเคลมประกันกับทางบริษัทประกันภัย
4.ติดต่อกับทางบริษัทประกันภัยรถยนต์อีกครั้ง
หากเรานั้นทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 2 และ 2+ เอาไว้ก็ขอให้สบายใจได้เลยว่า มีความคุ้มครองในกรณีนี้รถหาย รถถูกขโมยนี้อยู่ โดยครั้งนี้ให้เราเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียดกับทางบริษัทประกัน เพื่อที่บริษัทประกันจะได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบที่จุดเกิดเหตุ จากนั้นเมื่อตรวจสอบแล้วว่าเกิดเหตุขึ้นจริงทางบริษัทประกันก็จะทำเรื่องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับเรา ตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ที่เราทำไว้ครับ โดยจะไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ (ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับทางบริษัทประกันภัยแต่ละแห่งด้วยว่าจะมีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไรบ้าง) ซึ่งเราควรศึกษารายละเอียดส่วนนี้ให้ดีตั้งแต่ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยด้วยครับ เพราะถือว่าสำคัญมากๆ เลยทีเดียว
5.ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องรถหายให้ช่วยกระจายข่าวสาร
ยุคนี้ถือว่าข่าวสารต่างๆ สามารถเข้าถึงได้ง่าย ถึงการกระจายข่าวสารต่างๆ ก็สามารถทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดังนั้นคงจะเป็นการดีหากว่าเราทำการขอความร่วมมือจากสื่อหรือช่องทางต่างๆ ในการช่วยกระจายข่าวสาร เพื่อช่วยตามหารถของเรา ซึ่งอาจจะส่งผลให้เราได้รับรถคืนไวขึ้นก็เป็นได้ครับ
-จ.ส. 100 – โทรเบอร์ 1137
-ศูนย์วิทยุร่วมด้วยช่วยกัน สวพ.91 – โทรเบอร์ 1677
-สายด่วนรถหาย – โทรเบอร์ 1192
-แจ้งรถหายโทร – โทรเบอร์ 1599
วิธีป้องกันของในรถโดนขโมย!!
ติดตั้งสัญญาณกันขโมย และตรวจสอบสัญญาณ
รถรุ่นใหม่นั้นจะมีสัญญาณกันขโมยมาให้อยู่แล้วซึ่งหากตัวรถของท่านถูกงัดเปิดหรือมีอะไรที่กระแทกรถ อย่างแรง สัญญาณกันขโมยก็จะดังขึ้นมาซึ่งเป็นตัวเลือกที่สามารถป้องกันคุณโจรได้ดีวิธีหนึ่ง เพราะฉะนั้นควรเช็คหรือตรวจสอบให้ดีว่ารถของเรานั้นมีสัญญาณกันขโมยหรือไม่ หากมีเราก็ควรเช็คการทำงานให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
เช็คว่ารถล็อคดีแล้วหรือยัง
อันนี้เป็นวิธีเบสิคที่ทุกคนต้องทำเพราะหลายๆ คน เมื่อลงจากรถก็เดินออกไปเลยด้วยความรีบ ทั้งที่จริงเราควรเช็คให้ดีว่ารถของเราได้มีการล็อคดีแล้วหรือยังก่อนเดินออกไปทุกครั้ง
จอดรถในที่ปลอดภัยและสว่าง
แน่นอนว่าที่ที่คนพลุกพล่านหรือสว่าง โอกาสการงัดรถก็จะน้อยลง เราจึงควรหาที่จอดรถในที่ที่มีแสงสว่างหรือคนผ่านไปผ่านมาเยอะๆ ไม่ควรจอดรถในที่เปลี่ยวเพื่อความปลอดภัยทั้งคนและรถ ถ้าจะให้ปลอดภัยก็หาที่จอดรถที่มีคนช่วยดูแล อาจจะเสียเงินนิดหน่อยแต่เพื่อความสบายใจ
ติดตั้งระบบป้องกันการสตาร์ทเครื่องยนต์
ปี 2018 เรามีเทคโนโลยีมากมาย ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับรถ นั่นก็คือระบบป้องการการสตาร์ทรถหรือ Engine Immobilizer System โดยลูกกุญแจและแม่กุญแจจะมีการส่งรหัสผ่านกันไปมาหากเป็นดอกจริงก็จะสามารถสตาร์ทได้ แต่หากรหัสที่ส่งหากันผิดระบบจะมีทำการดับเครื่องยนต์โดยทันที และไม่มีทางที่จะสตาร์ทอีกรอบได้ด้วยกุญแจอันเดิม