***ช่วยกันแชร์หน่อยจ้า****


Self-Driving Truck
ปัจจุบัน เทคโนโลยีแบบไร้คนขับ กำลังเป็นที่สนใจในอุตสาหกรรมรถบรรทุกเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นนวัตกรรมที่มีความล้ำสมัยแล้ว ยังเป็นเทคโนโลยีช่วยให้เกิดการประหยัดต้นทุนเชื้อเพลิง อันเป็นผลมาจากการเดินรถด้วยระบบพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ ระบบเทคโนโลยีไร้คนขับ ยังจะสามารถช่วยเพิ่มความถี่ในการขนส่งสินค้า และลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุต่อผู้ขับขี่อีกด้วย จากการวิจัยและพัฒนารถบรรทุกแบบไร้คนขับ เราจะเห็นได้ว่าผู้ผลิตรถบรรทุกรายใหญ่ ได้มีการนำรถบรรทุกดังกล่าว มาทดสอบบนถนนหลวงได้จริง ซึ่งในอนาคตเทคโนโลยีไร้คนขับ จะมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหยุดรถหรือการเร่งเครื่องยนต์ รวมไปถึงการพัฒนาระบบควบคุม การตรวจจับวัตถุต่างๆ และการตรวจสอบสภาพอากาศ โดยในอนาคตหากมีการนำรถบรรทุกแบบไร้คนขับมาใช้งานมากขึ้น อาจจำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับ เพื่อให้การปฏิบัติการรถบรรทุกไร้คนขับสามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น



Safety Technology
ระบบรักษาความปลอดภัย ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีในรถบรรทุก เพราะนอกจากจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่คนขับและผู้ใช้รถใช้ถนนอีกด้วย ถึงแม้ว่าผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากรถบรรทุกขนาดใหญ่จะมีจำนวนน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับรถประเภทอื่นก็ตาม แต่การขนส่งทางถนนก็ยังมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าเมื่อเทียบกับการขนส่งประเภทอื่น ดังนั้น การติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันระบบรักษาความปลอดภัยมีให้เลือกหลากหลายตามความเหมาะสมและการใช้งานของบริษัทรถบรรทุก เช่น ระบบ Forward Collision Warning เป็นระบบตรวจจับระยะห่างระหว่างรถที่ขับกับรถคันข้างหน้า, ระบบ Lane Departure Warning เป็นระบบเตือนภัย เมื่อผู้ขับออกนอกเลน, ระบบ Roll Stability Control เป็นระบบควบคุมเสถียรภาพ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการพลิกคว่ำ, ระบบ Attention Assist เป็นระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับรถบรรทุก, ระบบ Stability Control เป็นระบบควบคุมการทรงตัวของรถบรรทุกและรถเทรลเลอร์ขนาดใหญ่ และ ระบบ Active Brake Assist เป็นระบบชะลอความเร็ว เมื่อตรวจจับความเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุ

Hybrid Truck
อย่างที่ทราบกันดีว่า การขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกนั้น เป็นรูปแบบการขนส่งที่สิ้นเปลืองน้ำมัน และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ดังนั้น ผู้ผลิตรถบรรทุกในอุตสาหกรรม จึงได้มีการพัฒนารถบรรทุกที่ช่วยประหยัดน้ำมัน และลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ สำหรับเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดน้ำมัน ที่สามารถพบเห็นอยู่เป็นประจำ และผู้ผลิตรถบรรทุก ส่วนใหญ่หันมาปรับใช้ คือ รถบรรทุกระบบพลังงานไฟฟ้า (Hybrid) เนื่องจากเป็นการขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าปกติ 25-30 เปอร์เซ็นต์ ประกอบกับเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง ทำให้เครื่องยนต์เผาผลาญพลังงานน้อยลงมากกว่าเดิม นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถบรรทุกในอุตสาหกรรมได้มีการพัฒนาระบบส่งกำลัง (Powertrain) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการลดขนาดเครื่องยนต์ให้เล็กลง เพื่อให้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยไอเสีย และเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ ซึ่งในอนาคตคาดว่า ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางถนน จะมีการนำรถบรรทุกระบบพลังงานไฟฟ้ามาปรับใช้มากขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าน้ำมันแล้ว ยังช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นอีกด้วย

Platooning System
แนวคิดในการพัฒนาระบบ Platooning เป็นหนึ่งในแนวคิดการพัฒนาระบบเทคโนโลยีไร้คนขับ ซึ่งระบบดังกล่าว จะใช้เพียงแค่คนขับรถนำขบวนเท่านั้น ส่วนรถบรรทุกคันอื่นจะใช้ระบบขับขี่แบบอัตโนมัติ ทั้งนี้ การขับรถเป็นขบวนได้นั้น คนขับรถแต่ละคันจำเป็นต้องสื่อสารกัน เพื่อให้คนขับรถบรรทุก คันอื่นรับรู้ว่าต้องเร่งความเร็วเท่าไหร่ หรือชะลอรถเท่าไหร่ ซึ่งการนำระบบนี้มาใช้งาน นอกจากจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ยังช่วยให้การสัญจรทางถนนดีขึ้นและมีพื้นที่บนถนนเพิ่มขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ระบบ Platooning เหมาะสำหรับการวิ่งบนถนนหลวง (highway) ซึ่งมีการจราจรที่คล่องตัว จึงไม่เหมาะกับการวิ่งรถในเมืองที่มีการจราจรแออัด

รถบรรทุกไร้คนขับวิ่งบนถนนได้อย่างไร
ตามหัวหน้าขบวน
รถบรรทุกคันหน้าจะนำขบวน และควบคุมรถบรรทุกที่ตามมา เมื่อคันหน้าเบรค รถในขบวนที่เหลือจะหยุดโดยทันที
ควบคุมโดยหุ่นยนต์
คอมพิวเตอร์จะเข้าควบคุมการขับรถบรรทุกอย่างเต็มรูปแบบ และจะรับผิดชอบต่อทุกอย่าง ตั้งแต่เร่งความเร็วไปจนถึงควบคุมพวงมาลัย
คนขับ
คอมพิวเตอร์จะเข้าควบคุมการขับรถบรรทุกอย่างเต็มรูปแบบ และจะรับผิดชอบต่อทุกอย่าง ตั้งแต่เร่งความเร็วไปจนถึงควบคุมพวงมาลัย
เทคโนโลยีเซนเซอร์
รวบรวมเรดาร์ ไลดาร์ จีพีเอส และวีดีโอเพื่อใช้ตรวจจับสิ่งกีดขวาง ผู้ร่วมใช้ถนน คนเดินถนน คนปั่นจักรยาน และอื่นๆ
เทคโนโลยีเซนเซอร์
รวบรวมเรดาร์ ไลดาร์ จีพีเอส และวีดีโอเพื่อใช้ตรวจจับสิ่งกีดขวาง ผู้ร่วมใช้ถนน คนเดินถนน คนปั่นจักรยาน และอื่นๆ

Telematics Technology
เทคโนโลยีเทเลเมติคส์ เป็นเทคโนโลยีช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ของผู้ขับรถบรรทุก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมรถบรรทุกเป็นอย่างมาก โดยใน อนาคตจะกลายเป็นระบบพื้นฐานหลักที่รถบรรทุกทุกคันต้องมี คุณสมบัติหลักของเทคโนโลยีเทเลเมติคส์ คือ ช่วยแจ้งเตือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ แจ้งเตือนเมื่อมีการขับขี่ออกนอกเส้นทาง รวมถึงการบอกเส้นทาง และ เก็บข้อมูลบันทึกพฤติกรรมการขับขี่ โดยในอนาคตคาดว่าจะมีการใช้ระบบเทเลเมติคส์มากขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันมีการเรียกร้องให้ออกกฎระเบียบเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อมูลชั่วโมงการปฏิบัติการของผู้ขับรถ (Hours of Service) ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเมื่อมีการปรับใช้ระบบเทคโนโลยี เทเลเมติคส์อย่างแพร่หลาย